วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ:อินเตอร์เน็ตเพื่อการศึกษา

อินเทอร์เน็ตกับการศึกษา





                  อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้กับแหล่งที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน สามารถสืบค้นข้อมูลได้และมีสถาบันต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลกได้เชื่อมเครือข่ายร่วมกัน จึงเป็นแหล่งที่จะสืบค้นข้อมูลเพื่อนำมาศึกษาหาความรู้ได้ การนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการศึกษาสามารถทำได้หลายรูปแบบด้วยกัน

     เสรี ชินโนดม (2543) ได้กล่าวถึงการประยุกต์ใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางการศึกษา ดังนี้

1. การใช้เครือข่ายเพื่อการติดต่อสื่อสารเป็นการติดต่อระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน เพื่อส่งรายงาน การบ้าน วิทยานิพนธ์ ในรูปแบบแฟ้มข้อมูล การเป็นสมาชิกกลุ่มสนทนาเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เผยแพร่ผลงานวิจัย ช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางด้านวิชาการ และแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวทางวิชาการ

2. การใช้เครือข่ายเพื่อการสืบค้นข้อมูลซึ่งผู้เรียน นักวิจัย และ ผู้สอนสามารถสืบค้นจากฐานข้อมูลทางการศึกษา และ Online Library Catalog ของห้องสมุดต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงในอินเทอร์เน็ตจากประเทศในทวีปต่าง ๆ ทั่วโลก

3. การใช้เครือข่ายเพื่อการสอน หรือการสอนทางไกลโดยผ่านเครือข่าย โดยเปิดเป็นหลักสูตรการสอนในระดับปริญญาและในแบบประกาศนียบัตร เรียกว่า Online Program ซึ่งผู้เรียนสามารถสมัครและเรียนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ส่วนกิจกรรมการเรียนการสอน เอกสารและการติดต่อต่าง ๆ อยู่ในรูปของแฟ้มข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา
            ยุคแห่งสังคมความรู้เป็นยุคที่นักการศึกษามีบทบาทต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยิ่ง อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางของการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วทั้งโลก เราต่างก้าวหน้าผ่านยุคแห่งสังคมข่าวสารมาแล้วซึ่งทำให้ประจักษ์ได้ว่าข่าวสารต่าง ๆ นั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และอื่น ๆ ได้นั้น ต้องอาศัยความรู้ในการจัดการ

การสร้างกิจกรรมการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
        กิจกรรมการศึกษาในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสามารถแสดงความสัมพันธ์ของกิจกรรมต่าง ๆ เพราะจำนวนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต่อการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษามีความสัมพันธ์กันในอัตราส่วนที่ลดลงโดยพบว่าขั้นพื้นฐานจะมีจำนวนประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ตมาก จำนวนของผู้ใช้ที่มีทักษะ หรือความสามารถในการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตกลับมีจำนวนที่ลดลง
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้วิธีการที่จะสร้างให้มีกิจกรรมเพื่อการศึกษาผ่านอินเทอร์เน็ตอย่างได้ผล จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการวางแผนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ให้เป็นบริการสาธารณูปโภคของประเทศที่มีประสิทธิภาพให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในเวลาอันรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ซึ่งปัจจุบันมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้รับการสนับสนุนจากทบวงมหาวิทยาลัย (Uninet) ส่วนโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาก็ได้รับการสนับสนุนจาก Schoolnet Thailand เช่นกัน
การบริการอินเทอร์เน็ตระดับพื้นฐาน
แต่ละขั้นจะมีรูปแบบของกิจกรรมการศึกษาที่แตกต่างกัน การใช้ระบบเครือข่ายระดับพื้นฐานคือการใช้อินเทอร์เน็ตตามโครงสร้างของสาธารณูปโภคที่มีใช้กันอยู่ในทุกแห่ง สาเหตุที่จะทำให้ กลุ่มผู้ใช้ที่ยังไม่รู้จักเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนเจตคติมายอมรับเพื่อเข้าร่วมในการใช้ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตน่าจะเป็นเพราะความสามารถในการสื่อสารระหว่างบุคคล และความสามารถของอินเทอร์เน็ตในการเข้าถึงข้อมูลที่มีอยู่ในคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ทั่วโลกด้วยเวลาอันรวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้จึงสามารถแบ่งบริการที่มีอยู่ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ว่า
    • เป็นบริการด้านการสื่อสารระหว่างบุคคลต่อบุคคล และบุคคลต่อกลุ่มบุคคล
    • เป็นบริการเพื่อการเข้าถึงแหล่งข้อมูล
การใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันที่สามารถนำมาเป็นตัวอย่างได้แก่ การใช้ e-mail ในการสื่อสารระหว่างบุคคล การใช้ WWW เพื่อสืบหาและเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
การเข้าถึงแหล่งข้อมูลและความรู้ ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตถูกนำมาใช้เพื่อการสืบค้น ข้อมูลมากที่สุด ซึ่งผู้ใช้ที่มีอาชีพแตกต่างกันย่อมใช้บริการที่มีอยู่ในปริมาณต่างกัน บ้างเป็นการสืบค้นข้อมูลที่เป็นตัวอักษร บ้างก็เป็นข้อมูลที่นำเสนอในรูปแบบของมัลติมีเดีย ที่ล้วนแต่แปลงเป็นสัญญาณดิจิตอลแล้วทั้งสิ้น
ทางด้านการศึกษา อาจจะคล้ายคลึงกับการไปห้องสมุดที่หาตำรา วารสาร โดยที่มีบรรณารักษ์คอยให้คำปรึกษา เพื่อจะได้ข้อมูลและความรู้ที่ต้องการ การใช้ข้อมูลต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตก็เช่นเดียว เพราะผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีอยู่ทันที สามารถเข้าร่วมกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตได้แม้จะอยู่ต่างสถานที่ก็ตาม เว้นเสียแต่ว่าในการศึกษาครั้งนั้นมีจุดประสงค์แตกต่างกัน
การร่วมกันใช้ข้อมูล แหล่งความรู้ การร่วมใช้ข้อมูลและแหล่งความรู้เป็นเรื่องปกติของกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการจะมีประสบการณ์ด้านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ต โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้จะไม่เพียงแต่มีปฏิสัมพันธ์กับข้อมูลหรือผู้เชี่ยวชาญเพียงลำพังเท่านั้น แต่จะเข้าร่วมกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ต เช่น การแสดงความคิดเห็น การสนทนา ผ่านเครือข่ายกบผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน การสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์กรต่าง ๆ เพื่อร่วมกันใช้ข้อมูลหรือร่วมแสดงความคิดเห็น
การร่วมมือ ร่วมตัดสินใจ และร่วมกันบริหาร ปัจจุบันมีรูปแบบของการร่วมกันในเครือข่ายอยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่ การร่วมมือ ร่วมตัดสินใจ และร่วมกันบริหาร ซึ่งเป็นการทำงานระหว่างบุคคล ที่ยังบกพร่องในรูปแบบที่เหมาะสมแม้จะมีจุดหมายเพื่อการใช้ข้อมูลร่วมกันก็ตาม ย้อนกลับไปยังประเด็นการศึกษาซึ่งเป็นการรวมกันระหว่างการเรียนในโรงเรียนหรือการเรียนทางไกลสำหรับผู้ใหญ่ที่จำเป็นจะต้องมีการสื่อสารกันตลอดเวลา ครูผู้สอนต้องจัดโปรแกรม กิจกรรมการเรียนการสอน และการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อให้กระบวนการเรียนรู้ สำหรับการเรียนของนักเรียนก็เช่นกันที่ต้องจัดให้มีกิจกรรมที่จะร่วมกันทำงานกับผู้อื่น เพื่อให้เกิดบุคลิกภาพของการร่วมกันทำงาน หรือต้องการให้สร้างสังคมของการเรียนรู้แบบร่วมมือนั้นเอง
การใช้แหล่งทรัพยากรในอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษามีความสัมพันธ์ กับทุกส่วนของการศึกษาเช่นลักษณะการเรียนการสอน หลักสูตร เนื้อหาเวลาเรียน ห้องเรียน ทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดของผู้เรียน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างรูปแบบของกิจกรรม การอบรม การวิจัย กิจกรรมเสริมอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับการใช้อินเทอร์เน็ต
ในระหว่าง 2 จุดประสงค์ดังกล่าว เราพบการประยุกต์เนื้อหาหลายรูปแบบซึ่งนำไปสู่เป้าหมายทางการศึกษา (ทักษะและความสามารถที่ได้จากการเรียน) ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์จึงอาจเป็นทั้งเนื้อหาและเครื่องมือในเวลาเดียวกัน
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ปัจจุบันจึงมีการเน้นให้เกิดการประยุกต์การศึกษาในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ดังนั้นการสอนเพื่อให้เกิดทักษะ และความรู้ต้องมาจากการออกแบบโครงการที่มีเฉพาะเจาะจงเพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ วิธีการ และเป็นเครื่องมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดทางการศึกษา
อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษาทางไกลเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในกระบวนการเรียนการสอนและนำมาประยุกต์ใช้กับการอบรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีแหล่งทรัพยากรด้านการศึกษามากขึ้นเท่าใด ยิ่งเป็นการเพิ่มคุณค่าของการศึกษาอย่างแท้จริง
ความรู้และทักษะที่จำเป็นของครูผู้สอน
การใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาโดยตรง เพราะเป็นการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์มาแก้ปัญหาทางการศึกษา ประโยชน์ของการใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ คือความสามารถในการสื่อสารที่หลากหลายระหว่างที่มีกิจกรรมทางเครือข่าย เหตุผลนี้สอดคล้องกับความสามารถและการจัดการเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างสถานที่หนึ่งไปยังสมาชิกที่อยู่ ณ สถานที่อื่น ความจำเป็นที่พึงระวังของผู้ใช้ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และการเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสมาชิกนั้นเอง
เป้าหมายของการศึกษาในระบบเครือข่าย
กระบวนการทางด้านการศึกษาใช้ระบบเครือข่ายเป็นพื้นฐานในการพัฒนามีการเชื่อมโยงกับมิติทั้ง 3 อันได้แก่ 1.) การบริการข้อมูลและสาธารณูปโภค 2.) ความรู้ และทักษะในการใช้บริการทั้งสองเพื่อฝึกฝนและเพื่อวิธีการและจุดประสงค์ที่การศึกษาต้องการไปถึง 3.) เป้าหมายทางการศึกษาที่สูงสุด
สรุป
เพื่อส่งเสริมให้เป้าหมายทางการศึกษาทางอินเทอร์เน็ตประสบความสำเร็จ เราจำต้องจัดกิจกรรมทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์และพัฒนาความสามารถของครู เพื่อนำไปสู่การเข้าถึงข้อมูลและการใช้บริการต่างๆ เพื่อเทคโนโลยีการสื่อสารในการศึกษาดังสรุปเป็นตาราง 1
การที่จะนำนักเรียนไปถึงเป้าหมายของการศึกษาซึ่งสัมพันธ์กับเครื่องมือต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ต ครูจะต้องทดลองใช้ปฏิสัมพนธ์ทางอินเทอร์เน็ตเสียก่อนไม่เพียงแต่เพื่อให้เป็นผู้นำและผู้ออกแบบที่ประสบผลสำเร็จในด้านนี้เท่านั้น แต่เป็นการใช้เครือข่ายจากความต้องการของตนเองและเพื่อไปสู่เป้าหมายของกิจกรรม โดยได้รับการปรับหลักสูตรและจุดประสงค์ ให้สอดคล้องกับการเรียนแบบบรรยายอีกด้วย





สุขภาพ >> การออกกำลังกาย

 
      รออกกำลังกายไม่ได้หมายถึงการต้องไปแข่งขันกีฬากับผู้อื่น แต่การออกกำลังกายเป็นการแข่งขันกับตัวเอง
หลายคนก่อนจะออกกำลังกายมักจะอ้างเหตุผลของการไม่ออกกำลังกาย เช่น ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ปัญหาเกี่ยวกับอากาศ ทั้งหมดเป็นข้ออ้างที่จะไม่ออกกำลังกาย แต่ลืมไปว่าการออกกำลังกาย อาจจะให้ผลดีมากกว่าสิ่งที่เขาเสียไป
เป็นที่น่าดีใจว่าการออกกำลังให้สุขภาพดีไม่ต้องใช้เวลามากมาย เพียงแค่วันละครึ่งชั่วโมงก็พอ และก็ไม่ต้องใช้พื้นที่หรือเครื่องมืออะไร มีเพียงพื้นที่ในการเดินก็พอแล้ว การออกกำลังจะทำให้รูปร่างดูดี กล้ามเนื้อแข็งแรง ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันโรคกระดูกพรุน ป้องกันโรคอ้วน การออกกำลังกายทำให้ร่างกายสดชื่น มีพลังที่จะทำงานและต่อสู้กับชีวิต นอกจากนั้นยังสามารถลดความเครียดได้ด้วย

การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพคืออะไร

linesbar.gif (1687 bytes)
            คือ การออกกำลังกายเพื่อเพิ่ม หรือคงไว้ซึ่งความทนทานของระบบไหลเวียนโลหิตและปอด โดยมีขบวนการใช้ออกซิเจน ในขบวนการเผาผลาญ เพื่อให้เกิดพลังงานสำหรับการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง จึงมีชื่อเรียกการออกกำลังกายชนิดนี้ว่า AEROBIC EXERCISE
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
1. ระบบไหลเวียนโลหิต  
   1.1 ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงมากขึ้น สามารถสูบฉีดโลหิตได้ปริมาณมากขึ้น   1.2 เพิ่มหลอดโลหิตฝอยมาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจมากขึ้น   1.3 ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ทั้งในขณะพัก และออกกำลังกาย ทำให้ไม่เหนื่อยง่าย   1.4 ลดแรงต้านทานส่วนปลายของหลอดโลหิตฝอยทำให้ความดันโลหิตลดลงทั้งขณะพัก และออกกำลังกายลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง
2. ระบบหายใจ
   2.1 ความจุปอดเพิ่มขึ้น ทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนมากขึ้น   2.2 เพิ่มปริมาณโลหิตไปสู่ปอด ทำให้การไหลเวียนของปอดดีขึ้น   2.3 เพิ่มประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนก๊าซที่ปอด ทำให้ประสิทธิภาพการหายใจดีขึ้น
3. ระบบชีวเคมีในเลือด
   3.1 ลดปริมาณคอเลสเตอรอล (Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) จึงลดอัตราเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน   3.2 เพิ่ม HDL Cholesterol ซึ่งช่วยลดการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน   3.3 ลดน้ำตาลส่วนเกินในเลือด เป็นการช่วยป้องกันโรคเบาหวาน
4. ระบบประสาทและจิตใจ
   4.1 ลดความวิตกกังวลและคลายความเครียด   4.2 มีความสุขและรู้สึกสบายใจจากสาร Endorphin ที่หลั่งออกมาจากสมองขณะออกกำลังกาย
ขั้นตอนและหลักในการปฏิบัติ
            ถ้ามีอายุมากกว่า 35 ปี ควรตรวจสุขภาพ ว่ามีโรคหัวใจหรือไม่ก่อนการออกกำลังกายชนิดนี้ ควรรู้วิธีเหยียดและยืดกล้ามเนื้อ รวมทั้งอุ่นเครื่อง (Warm up) และเบาเครื่อง (Cool down) หลักในการปฏิบัติ เป็นการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างน้อย 1 ใน 6 ส่วนของร่างกาย ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ
คำศัพท์
Frequency (F)     หมายถึงความถี่ในการออกกำลังกายใน 1 สัปดาห์ อย่างน้อย 3 วัน อย่างมาก 6 วัน
Intensity (I)         หมายถึงความหนักในการออกกำลังกาย ใช้อัตราการเต้นของชีพจรเป็นเกณฑ์ ให้ได้ประมาณระหว่างร้อยละ 70-90 ของอัตราเต้นสูงสุดของหัวใจ ซึ่งสามารถคำนวนได้จากการนำอายุไปลบออกจากเลข 220
      ตัวอย่างเช่น ชายอายุ 20 ปี จะใช้ความหนักในการออกกำลังกายชนิดนี้เท่าใด
      คำตอบคือ (220-20)x 70 ถึง 90 หาร 100 เท่ากับ 140 ถึง 180 ครั้งต่อนาที
Time (T)             หมายถึง ช่วงเวลาในการออกกำลังกายในแต่ละวัน อย่างน้อย 10-15 นาที ใน 6 วัน อย่างมาก 30-45 นาทีใน 3 วัน
รูปแบบการออกกำลังกาย
            มีหลากหลายชนิดเช่น วิ่งเหยาะ, เดินเร็ว, ขี่จักรยาน, ว่ายน้ำ, เต้นแอโรบิค, ฟุตบอล, บาสเก็ตบอล, เทนนิส, แบดมินตัน, ตระกร้อข้ามตาข่าย, วอลเลย์บอล เป็นต้น
ข้อควรระวัง
bullet2.gif (105 bytes)ควรงดการออกกำลังกาย ในขณะเจ็บป่วย มีไข้ พักผ่อนไม่พอ
bullet2.gif (105 bytes)ควรออกกำลังกายก่อนอาหารหรือหลังอาหารหนักผ่านไป 3-4 ชั่วโมง และดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
bullet2.gif (105 bytes)ควรหลีกเลี่ยงสภาพอากาศที่ร้อนจัด หนาวจัด ฝนฟ้าคะนอง มลภาวะมาก สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม
bullet2.gif (105 bytes)ควรพักหากมีอาการแน่นหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียน และไปพบแพทย์



วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

แนะนำ e-bookเพื่อการพยาบาล

เว็บนี้คือเว็บแนะนำe-bookพยาบาล สำหรับผู้ที่สนใจด้านการพยาบาลและสาธารณสุข
 จากกองพยาบาลสาธารณสุข สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร
e-bookพยาบาล


http://phn.bangkok.go.th/index.php?option=com_docman&task=doc_download&gid=65&Itemid=65

สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องพยาบาลและสาธารณสุขน่าจะลองดูเว็บนี้นะค่ะ
ขอแนะนำเว็บe-book พยาบาล

จากกองการพยาบาลสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร
E-book กลุ่มงานมาตรฐานและควบคุมคุณภาพการพยาบาล

 หนังสือที่แนะนำ
จัดทำโดย:กลุ่มงานมาตรฐานและควบคุมคุณภาพการพยาบาล








Download:คู่มือตัวชี้วัดและเกณฑ์ประเมินมาตรฐานการบริหารการพยาบาลจัดทำโดย:กลุ่มงานมาตรฐานและควบคุมคุณภาพการพยาบาล 



Download:คู่มือตัวชี้วัดและเกณฑ์ประเมินมาตรฐานการปฏิบัติการพยาบาลในชุมชนจัดทำโดย:กลุ่มงานมาตรฐานและควบคุมคุณภาพการพยาบาล





Download:คู่มือตัวชี้วัดและเกณฑ์ประเมินมาตรฐานการปฏิบัติการพยาบาลในชุมชน
จัดทำโดย:กลุ่มงานมาตรฐานและควบคุมคุณภาพการพยาบาล 



Download: คู่มือวิธีปฏิบัติเพื่อการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในบริการด้านการรักษาพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข
จัดทำโดย:กลุ่มงานมาตรฐานและควบคุมคุณภาพการพยาบาล
จัดทำโดย:กลุ่มงานมาตรฐานและควบคุมคุณภาพการพยาบาล
E-book กลุ่มงานเทคโนยีสารสนเทศทางการพยาบาล

Description: http://phn.bangkok.go.th/images/stories/%20poff%2052.jpg

Download: รายงานสรุปผลการสำรวจข้อมูลสุขภาพครอบครัวศูนย์ฯ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ในโปรแกรมการบันทึกข้อมูลสุขภาพครอบครัว (program of Family Folder: POFF 2.1) ปี 2552
จัดทำโดย:กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศทางการพยาบาล

Description: http://phn.bangkok.go.th/images/stories/phn/health.jpg

Download:คู่มือแบบบันทึกข้อมูลสุขภาพครอบครัวสำหรับ โปรแกรมการบันทึกข้อมูลสุขภาพครอบครัว Poff 3
จัดทำโดย:กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศทางการพยาบาล

Description: http://phn.bangkok.go.th/images/stories/phn/poff%203.jpg

Download:คู่มือแบบบันทึกข้อมูลสุขภาพครอบครัวสำหรับ โปรแกรมการบันทึกข้อมูลสุขภาพครอบครัว (ฉบับย่อ)
จัดทำโดย:กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศทางการพยาบาล

Description: http://phn.bangkok.go.th/images/stories/phn/scan%20final.jpg

Download:แบบบันทึกข้อมูลสุขภาพครอบครัวสำหรับ โปรแกรมการบันทึกข้อมูลสุขภาพครอบครัว poff 3
จัดทำโดย:กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศทางการพยาบาล

Description: http://phn.bangkok.go.th/images/stories/ebook/coverprogrampoff3.jpg

Download:คู่มือโปรแกรมการบันทึกข้อมูลสุขภาพครอบครัว poff 3
จัดทำโดย:กองสารสนเทศภูมิศาสตร์และกลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศทางการพยาบาล

Description: http://phn.bangkok.go.th/images/stories/phn/cover%20low.jpg

Download:เอกสารประกอบการประชุมวิชาการ "กฏระเบียบวินัยข้าราชการและแนวทางการจัดโครงการฝึกอบรม
จัดทำโดย:กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศทางการพยาบาล

Description: http://phn.bangkok.go.th/images/stories/ebook/p1.gif

Download:สรุปสถิติการต่อผู้ป่วยเพื่อการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้าน สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร 3 ปีงบประมาณ
จัดทำโดย:กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศทางการพยาบาล


Description: http://phn.bangkok.go.th/images/stories/ebook/mis_p1.jpg

Download:คู่มือรายงานกิจกรรมการพยาบาล งานพยาบาลในสถานที่และพยาบาลในชุมชน (MIS)
จัดทำโดย:กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศทางการพยาบาล


E-book กลุ่มงานพัฒนาบุคลากรและวิชาการพยาบาล


E-book กลุ่มวิจัยและพัฒนาระบบบริการพยาบาล
Description: http://phn.bangkok.go.th/images/stories/ebook/berwor10.jpg

Download:แนวทางการดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวาน ในชุมชน สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร
จัดทำโดย:กลุ่มงาน วิจัยและพัฒนาระบบบริการพยาบาล
 วิธีการเปิดหนังสือ
คลิก Downloadหนังสือที่เราสนใจแล้วsaveไว้ในเครื่องแค่นี้ก็เปิดอ่านได้แล้วค่ะ
ตัวอย่างเช่น